วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

ทำไมถึงชื่อ...เขาช้างเผือก

มีเรื่องเล่าสืบทอดกันมาจากคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านอีต่อง ว่าชื่อเขาช้างเผือกนั้นได้แปลมาจากภาษาพม่าที่ออกเสียงว่า"ฝี่พิ่วด่าว"เนื่องจากได้มีชาวบ้านเชื้อสายพม่าได้ออกไปหาของป่าในแถบบริเวณเขาช้างเผือกในปัจจุบัน และได้ไปพบกับโขลงช้างเผือกหลายสิบตัว ณ บริเวณที่พบโขลงช้างเผือกนั้นตั้งอยู่ระหว่างทางเดินเท้าจากลานกางเต็นท์ไปที่สันคมมีดช่วงแอ่งกลางทางนั้นทางด้านขวามือขณะหันหน้าไปทางสันคมมีดจะมีทางลงลัดเลาะไหล่เขาลงไปยังลำธารด้านล่าง ซึ่งใช้เวลาเดินลงประมาณ ๔๕ นาทีเห็นจะได้ และยังได้มีการเล่าขานถึงเหตุการณ์อาถรรณ์ของโขลงช้างเผือกนี้อีกด้วย บ้างก็ว่าเป็นช้างศักดิ์สิทธิ์ บ้างก็ว่าเป็นช้างเทพเจ้า เพราะได้มีเหตุการณ์หลายอย่าที่ทำให้ชาวบ้านต่างโจทย์ขานกันว่า ได้มีนายพรานที่ชอบออกล่าสัตว์และหาเก็บของป่ามาขาย จะเข้าไปล่าช้างเพื่อเอางาไปขาย แต่ก้อทำไม่สำเร็จเลยสักครั้งแถมยังต้องมาสังเวยชีวิตตัวเองไปด้วยความโลภและจะเอาชีวิตผู้อื่น ในปัจจุบันก็ยังมีผู้พบเห็นบ้างไม่บ่อยน้กและเห็นแค่เพียงตัวเดียว และนั่นยังคงเป็นความเชื่อว่า ณ เขาช้างเผือก แห่งนี้จะมีเจ้าพ่อช้างเผือกคอยดูแลปกป้องคุ้มครองภูเขาและป่าไม้ต่อไป ทุกปีก่อนเปิดเขาให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชม จะมี่ชาวบ้านนำของมาทำพิธีเส้นไหว้ตรงบริเวณจุดทางลงไปยังถิ่นที่พักอาศัยของช้างเผือก ซึ่งจะใช้ ดอกไม้ ธูป เทียน ไก่ต้มขาว เหล้า และคำกล่าวบูชาเป็นภาษาพม่า และเมื่อสิ้นสุดฤดูการทัวร์เขาช้างเผือกในช่วงปลายเดือนมกราคมหรืออาจจะยาวไปถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ตามแต่สภาพอากาศในแต่ละปีนั้นๆก็จะมีชาวบ้านมาทำพิธีเส้นไหว้บูชาอีกเช่นกัน

เขาช้างเผือก.....

เขาช้างเผือก
เขาช้างเผือก คือ หนึ่งในสิบสถานที่ยอดฮิตติดอันดับที่มีผู้คนอยากไปทัวร์เขาช้างเผือกสักครั้ง หรือแม้แต่คนที่เคยมาแล้วก็ยังอยากกลับมาอีก ด้วยความสวยงาม และความท้าทายของธรรมชาติ อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าในอดีตใครที่ได้ขึ้นพิชิตยอดเขาช้างเผือกนั้นทางอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิจะได้ทำการออกเกียรติบัตรไว้ให้เป็นที่ระลึก ซึ่งมีด้วยกัน 3 ระดับชั้นด้วยกันคือ 
ระดับที่ 1 ลานกางเต็นท์(จุดตั้งแคมป์พักแรม มีห้องน้ำเป็นแบบส้วมหลุม)
ระดับที่ 2 สันคมมีด(ทางเดินแคบประมาณ 40-60 ซ.ม.บนสันเขา)
ระดับที่ 3 จุดสูงสุด(เขาสูง ยอด 1,249 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง)
1.ลานกางเต็นท์ ที่มีห้องน้ำเป็นแบบส้วมหลุมฝาเปิด-ปิดได้ พื้นที่กางเต็นท์มีน้อยจึงต้องจำกัดนักท่องเที่ยวขึ้นค้างพักแรมคืนละ 60 ท่านในแต่ละปีที่ผ่านมา(ปีนี้อาจเหลือแค่ 50 ท่าน ต่อคืน)สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์เกือบ 360 องศารอบด้าน ในบ้างช่วงเวลาสภาพอากาศและอุณหภูมิลงตัวพอเหมาะก็จะได้เห็นทะเลหมอกทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาตรงบริเวณลานกางเต็นท์เลยที่เดียว คือ ตื่นมาจิบกาแฟชมหมอกกันข้างเต็นท์เลยทีเดียว แล้วยังสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้โดยไม่ต้องเดินไปไหนแค่หมุนรอบตัวเองก็เห็นความงดงามของธรรมชาติรอบด้านเลย
2.สันคมมีด คือจุดที่ต้องเดินผ่านไปยังจุดสูงสุด เป็นช่วงระหว่างทางเดินจากลานกางเต็นท์ไปยังจุดสูงสุด จุดที่เสียวลุ้นระทึกที่สุด ตรงที่เรียกว่าสันคมมีดเพราะลักษณะของทางเดินตรงนั้นจะแคมมาก ประมาณ 40-60 ซ.ม.ในระยะทางประมาณ 50 เมตร แม้ไม่ไกลมากก็ทำให้หลายคนกลัวจนไม่กล้าข้ามไป เพราะซ้ายก็เหว ขวาก็เหว อืมน่าคิดหนัก แต่ในความน่ากลัวเราก็ยังมีตัวช่วยให้นะ คือจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยแนะนำวิธีการเดิน ปีนป่าย และมีทีมงานคอยช่วยเหลือ ให้กำลังใจกันตลอด
3.จุดสูงสุด ที่ 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทางขึ้นและลงค่อนข้างชัน ประมาณ 70-80 องศาเลยที่เดียว ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากเช่นกัน ซึ่งการขึ้นลงก็หวาดเสียวได้ใจเลยทีเดียว แต่ต้องยอมรับว่าความสวยงามของธรรมชาติที่มองเห็นอยู่เบื้องหน้านะตอนนั้นมันคุ้มค่ากับการเดินทางมาในครั้งนี้เป็นอย่างมาก